วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ธุรกิจขายตรงที่ยึดเป็นอาชีพได้

เมื่อพูดถึงอาชีพโดยทั่วไป เชื่อได้เลยครับว่ามีคนนึกถึงขายตรงน้อยมาก ไม่ใช่ว่าขายตรงไม่ดี แต่เป็นเพราะคนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยได้ทำความรู้จักธุรกิจนี้มากนัก เมื่อไม่รู้จักก็มักจะไม่อยู่ในความนึกคิด......
แต่ในความเป็นจริงแล้วขายตรงเป็นธุรกิจที่ยึดเป็นอาชีพหลักได้ มีคนเรือนแสนเรือนล้านที่มีรายได้จากธุรกิจขายตรงเป็นทั้งอาชีพหลักและอาชีพ เสริมอย่างที่เคยเขียนถึงว่าคนไทยทั่วประเทศที่เป็นสมาชิกบริษัทต่างๆ มีรายได้จากขายตรงปีละกว่า 12,000 ล้านบาท หรือ หากเก็บตัวเลขในตลาดขายตรงอย่างละเอียด ไม่รวบรวมอย่างหยาบๆ เหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เชื่อว่าน่าจะมากกว่า 20,000ล้านบาท
.......นี่คือตัวเงินที่เป็นรายได้เข้าสู่ครัวเรือนคนไทยทั่วประเทศที่มีอาชีพทำธุรกิจขายตรง ซึ่งไม่รวมที่เป็นผู้ประกอบการวันนี้อยากจะเขียนถึงเรื่องนี้ให้คนไทยได้เห็นความน่าสนใจของขายตรงกันให้มากขึ้นครับโดยหลักๆแล้วขายตรงแยกเป็น 2 ระบบ คือขายตรงชั้นเดียว หรือ Single Level Marketing และขายตรงแบบหลายชั้น หรือ Multi Level Marketing ขายตรงชั้นเดียว อย่างเช่น เอวอน, มิสทิน, ยู สตาร์ ฯลฯส่วนขายตรงหลายชั้น ก็มีอย่าง แอมเวย์, กิฟฟารีน, นู สกิน, คังเซน เคนโก, นีโอไลฟ์ ฯลฯ
สิ่งหนึ่งที่อยากย้ำกับคนไทย ก็คือ ขายตรงเป็นธุรกิจที่มีกฎหมายรองรับ ดูแลมาตั้งแต่ปี 2545 มีหน่วยงานรัฐคือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ.เป็นผู้ดูแลทุกบริษัทที่เปิดทำธุรกิจขายตรงต้องไปยื่นขออนุญาตจาก สคบ.เพื่อทำธุรกิจขายตรงเป็นการเฉพาะเพิ่มเติมจากการจดทะเบียนเป็นบริษัท ปกติที่ต้องทำอยู่แล้วการยื่นขออนุญาตสคบ.ต้องแสดงเอกสารหลักฐานบริษัท ผู้บริหาร ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น มีใบอนุญาตอย. ที่สำคัญต้องแสดงแผนการจ่ายผลตอบแทนให้พิจารณาตรวจสอบ เพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่ใช่แผนรายได้ที่เป็นการทำมันนี่เกมบริษัทที่ได้รับอนุญาตจึงเท่ากับได้ผ่านการตรวจสอบตามกฎหมายจากสคบ.ช่วยเป็นหูเป็นตาแทนผู้บริโภคในเบื้องต้นขายตรงยุคนี้จึงเปลี่ยนไปและแตกต่างจากยุคเมื่อ10 ปีที่แล้วมากทีเดียวครับ ทั้งจากที่มีกฎหมายดูแล และคนทั่วไปเริ่มเข้ามาทำเป็นอาชีพกันมากขึ้นที่เห็นได้ชัดเจนก็คือคนรุ่นใหม่เข้ามาทำกันอย่างจริงจัง และประสบความสำเร็จกันจำนวนมากอย่างที่ นีโอไลฟ์ ก็มีตัวอย่างคนที่ยังเป็นนักศึกษาด้วยซ้ำไป ที่ทุ่มเททำจริงจังต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จมีรายได้เดือนละหลายหมื่นบาทยังไม่รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่เรียนจบระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ทั้งคนที่เป็นวิศวกร พนักงานบริษัท ธนาคาร นักธุรกิจ อาจารย์ ฯลฯ
หลายคนลาออกจากงานเดิมที่มีรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท หันมาทำธุรกิจกับนีโอไลฟ์เต็มเวลาเป็นอาชีพหลัก และสามารถสร้างธุรกิจมีรายได้หลักแสนบาท/เดือน โดยใช้เวลาไม่นานนักหากทำงานรับเงินเดือนในอาชีพเดิม การจะมีรายได้หลักแสนอาจต้องใช้เวลานับปี หลายสิบปี หรืออาจจะไม่มีทางได้ถึงหลักแสนเพราะอัตราเงินเดือน ไม่ถึงระดับนั้น
แต่ในธุรกิจนี้จะเรียนจบอะไรมาไม่สำคัญครับ ทุกคนสามารถก้าวไปมีรายได้หลักหมื่น หลักแสนหรือหลักล้านบาท/เดือนได้ หากตั้งใจมุ่งมั่นทำจริงไม่เลิกไปเสียก่อน
นอกจากที่นีโอไลฟ์แล้วยังมีตัวอย่างให้เห็นอยู่ในหลายบริษัทและที่น่ายินดีแทนคนวงการขายตรงก็เห็นจะเป็นการที่รัฐบาลยุคหลังๆ มานี้ ตั้งแต่ยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เริ่มเห็นความสำคัญถึงขนาดที่ยกให้เป็นธุรกิจช่วยชาติหรืออย่างล่าสุด รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มองขายตรงเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอาชีพให้คนไทย และยกให้เป็นหนึ่งในโครงการต้นกล้าอาชีพขายตรงวันนี้เปลี่ยนไปจากเดิม ใครที่ยังไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นว่าขายตรงเป็นอาชีพได้อย่างไร ลองเข้าไปศึกษาดูนะครับเพราะหลายคนมีรายได้ที่ดี หรือร่ำรวยมีคุณภาพชีวิตที่ดีกับธุรกิจนี้ ก็มาจากคนที่ไม่เคยรู้จักขายตรงมาก่อนขายตรงสร้างชีวิตที่ดีกว่าและยึดเป็นอาชีพได้มานักต่อนักแล้วครับ